วันอาทิตย์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2556

วันเด็กแห่งชาติ







วันเด็กแห่งชาติ



ย้อนไป พ.ศ.2498 ได้เกิดปฏิญญาว่าด้วยสิทธิเด็กขึ้นโดยองค์การสหประชาชาติทั่วโลกเกิดความตื่นตัวและเห็นพ้องต้องกันว่าควรจะให้ความสำคัญแก่เด็กๆ
ของตนมากขึ้น การขานรับเป็นไปอย่างกว้างขวาง ในปีเดียวกันนั้นเองทั่วโลกไม่น้อยกว่า 40 ประเทศ จัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติของตนขึ้น
โดยกำหนดกันว่าจะถือเอาวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมของทุกปี เป็นวันเด็กแห่งชาติ  สำหรับประเทศไทย รับข้อเสนอของนายวี เอ็ม กุลกานี
ผู้แทนองค์กรสมาพันธ์เพื่อสวัสดิภาพเด็กระหว่างประเทศ ซึ่งบอกผ่านมาทางกรมประชาสงเคราะห์ กระทรวงมหาดไทยว่าไทยควรจัดงานเฉลิมฉลองวันเด็กแห่งชาติ
ิเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเห็นความสำคัญของเด็กให้มากขึ้น ดังที่นานาประเทศกำลังทำอยู่คณะกรรมการสภาวัฒนธรรมแห่งชาตินำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม
ในที่สุดที่ได้รับมติเห็นชอบนำเรื่องเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ในต่อมาวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ.2498คณะรัฐมนตรีมีมติรับหลักการให้จัดงานวันเด็กแห่งชาติขึ้น
มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงศึกษาธิการ รับไปดำเนินการส่วนค่าใช้จ่ายในการจัดงานได้อนุมัติเงินจากกองสลากกินแบ่งรัฐบาลมาดำเนินการ
3 ตุลาคม พ.ศ.2498 คือวันเฉลิมฉลองวันเด็กแห่งชาติครั้งแรกของประเทศไทย จากนั้นเป็นต้นมาราชการได้กำหนดวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมของทุกปี
เป็นวันเด็กแห่งชาติ จัดติดต่อกันมาจนถึงปี 2506 ที่ประชุมคณะกรรมการจัดงานวันเด็กแห่งชาติในปีนั้นมีความเห็นพ้องต้องกันว่าสมควรที่จะเสนอเปลี่ยนวันจัดงาน
วันเด็กแห่งชาติเสียใหม่ เพื่อความเหมาะสม ด้วยเหตุผลว่าเดือนตุลาคมสำหรับประเทศไทย เป็นเดือนที่ยังอยู่ในฤดูฝน มีฝนตกมาก เด็กๆไม่สะดวกในการเดินทางมาร่วมงาน
นอกจากนี้วันจันทร์เป็นวันปฏิบัติงานของผู้ปกครองจึงไม่สามารถพาเด็กของตนไปร่วมงานได้ ทั้งการจราจรก็ติดขัดจึงเห็นว่าควรจะเปลี่ยนเป็นวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคม
เสียทุกสิ่งทุกอย่าง ได้สะดวกสบายขึ้นและมีความเหมาะสมมากกว่าคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ ตามที่คณะกรรมการจัดงานวัดเด็กแห่งชาติเสนอมา
ลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2507จึงประกาศเปลี่ยนงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ จากวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคม เป็นวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคม ด้วยเหตุนี้ปี 2507
จึงไม่มีงานวันเด็กแห่งชาติด้วยการประกาศเปลี่ยนได้เลยวันมาแล้ว งานวันเด็กแห่งชาติเริ่มจัดขึ้นใหม่อีกครั้งในปี 2508 เรื่อยมาถึงปัจจุบัน
วัตถุประสงค์ของการจัดงานวันเด็กแห่งชาติที่รัฐบาลไทยกำหนดไว้คือ เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของเด็ก สนใจในการเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนเด็ก
และช่วยเหลือสงเคราะห์เด็กเป็นพิเศษ เพื่อให้เด็กและและเยาวชนยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขเพื่อให้เด็กรู้จักหน้าที่ของตนและอยู่ในระเบียบวินัยอันดีและเพื่อเผยแพร่ปฏิญญาสากล ว่าด้วยสิทธิของเด็ก คำขวัญวันเด็ก
เป็นคำขวัญที่นายกรัฐมนตรีมอบให้เด็กไทย เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติของทุกปี โดยคำขวัญวันเด็กมีขึ้นครั้งแรก เมื่อ พ.ศ. 2499 ในสมัยที่จอมพล ป.พิบูลสงคราม
ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และตั้งแต่ พ.ศ. 2502 จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้ให้คุณค่าความสำคัญของเด็ก
จึงมอบคำขวัญให้เป็นข้อคติเตือนใจสำหรับเด็ก ปีละ 1 คำขวัญ (ก่อนถึงวันเด็กแห่งชาติ) นายกรัฐมนตรีสมัยต่อมา จึงได้ถือเป็นธรรมเนียมสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
สำหรับ คำขวัญวันเด็กตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน  มีดังนี้ค่ะพ.ศ. 2499 - จอมพล ป.พิบูลสงคราม : จงบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นและส่วนรวม
พ.ศ. 2502 - จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ : ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่รักความก้าวหน้า
พ.ศ. 2503 - จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ : ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่รักความสะอาด
พ.ศ. 2504 - จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ : ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่อยู่ในระเบียบวินัย
พ.ศ. 2505 - จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ : ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่ประหยัด
พ.ศ. 2506 - จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ : ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่มีความขยันหมั่นเพียรมากที่สุด
พ.ศ. 2507 : ไม่มีคำขวัญ เนื่องจากงดการจัดงานวันเด็กแห่งชาติ
พ.ศ. 2508 - จอมพล ถนอม กิตติขจร : เด็กจะเจริญต้องรักเรียนเพียรทำดี
พ.ศ. 2509 - จอมพล ถนอม กิตติขจร : เด็กที่ดีต้องมีสัมมาคารวะ มานะ บากบั่น และสมานสามัคคี
พ.ศ. 2510 - จอมพล ถนอม กิตติขจร : อนาคตของชาติจะสุกใส หากเด็กไทยแข็งแรงดีมีความประพฤติเรียบร้อย
พ.ศ. 2511 - จอมพล ถนอม กิตติขจร : ความเจริญและความมั่นคงของชาติไทยในอนาคต ขึ้นอยู่กับเด็กที่มีวินัย เฉลียวฉลาดและรักชาติยิ่ง
พ.ศ. 2512 - จอมพล ถนอม กิตติขจร : รู้เรียน รู้เล่น รู้สามัคคี เป็นความดีที่เด็กพึงจำ
พ.ศ. 2513 - จอมพล ถนอม กิตติขจร : เด็กประพฤติดีและศึกษาดี ทำให้มีอนาคตแจ่มใส
พ.ศ. 2514 - จอมพล ถนอม กิตติขจร : ยามเด็กจงหมั่นเรียน เพียรกระทำดี เติบใหญ่จะได้มีความสุขความเจริญ
พ.ศ. 2515 - จอมพล ถนอม กิตติขจร : เยาวชนฝึกตนดี มีความสามารถ
พ.ศ. 2516 - จอมพล ถนอม กิตติขจร : เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติเจริญ
พ.ศ. 2517 - นายสัญญา ธรรมศักดิ์ : สามัคคีคือพลัง
พ.ศ. 2518 - นายสัญญา ธรรมศักดิ์ : เด็กดีคือทายาทของชาติไทย ต้องร่วมใจร่วมพลังสร้างความสามัคคี
พ.ศ. 2519 - หม่อมราชวงศ์ คึกฤทธิ์ ปราโมช : เด็กที่ต้องการเห็นอนาคตของชาติรุ่งเรือง จะต้องทำตัวให้ดี มีวินัย เสียแต่บัดนี้
พ.ศ. 2520 - นายธานินทร์ กรัยวิเชียร : รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นคุณสมบัติของเยาวชนไทย
พ.ศ. 2521 - พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ : เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติเจริญ
พ.ศ. 2522 - พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ : เด็กไทยคือหัวใจของชาติ
พ.ศ. 2523 - พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ : อดทน ขยัน ประหยัด เป็นคุณสมบัติของเด็กไทย
พ.ศ. 2524 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ : เด็กไทยมีวินัย ใจสัตย์ซื่อ รู้ประหยัด เคร่งครัดคุณธรรม
พ.ศ. 2525 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ : ขยันศึกษา ใฝ่หาความรู้ เชิดชูชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นคุณสมบัติของเด็กไทย
พ.ศ. 2526 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ : รู้หน้าที่ ขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัด มีวินัยและคุณธรรม
พ.ศ. 2527 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ : รักวัฒนธรรมไทย ใฝ่ดีมีความคิด สุจริตใจมั่น หมั่นศึกษา
พ.ศ. 2528 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ : สามัคคี นิยมไทย มีวินัย ใฝ่คุณธรรม
พ.ศ. 2529 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ : นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม
พ.ศ. 2530 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ : นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม
พ.ศ. 2531 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ : นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม
พ.ศ. 2532 - พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ : รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม
พ.ศ. 2533 - พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ : รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม
พ.ศ. 2534 - พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ : รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่คุณธรรม นำชาติพัฒนา
พ.ศ. 2535 - นายอานันท์ ปันยารชุน : สามัคคี มีวินัย ใฝ่ศึกษา จรรยางาม
พ.ศ. 2536 - นายชวน หลีกภัย : ยึดมั่นประชาธิปไตย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม
พ.ศ. 2537 - นายชวน หลีกภัย : ยึดมั่นประชาธิปไตย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม
พ.ศ. 2538 - นายชวน หลีกภัย : สืบสานวัฒนธรรมไทย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม
พ.ศ. 2539 - นายบรรหาร ศิลปอาชา : มุ่งหาความรู้ เชิดชูความเป็นไทย หลีกไกลยาเสพติด
พ.ศ. 2540 - พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ : รู้คุณค่าวัฒนธรรมไทย ตั้งใจใฝ่ศึกษา ไม่พึ่งพายาเสพติด
พ.ศ. 2541 - นายชวน หลีกภัย : ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย
พ.ศ. 2542 - นายชวน หลีกภัย : ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย
พ.ศ. 2543 - นายชวน หลีกภัย : มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ คู่คุณธรรม นำประชาธิปไตย
พ.ศ. 2544 - นายชวน หลีกภัย : มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ คู่คุณธรรม นำประชาธิปไตย
พ.ศ. 2545 - พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร : เรียนให้สนุก เล่นให้มีความรู้ สู่อนาคตที่สดใส
พ.ศ. 2546 - พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร : เรียนรู้ตลอดชีวิต คิดอย่างสร้างสรรค์ ก้าวทันเทคโนโลยี
พ.ศ. 2547 - พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร : รักชาติ รักพ่อแม่ รักเรียน รักสิ่งดีๆ อนาคตดีแน่นอน
พ.ศ. 2548 - พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร : เด็กรุ่นใหม่ ต้องขยันอ่าน ขยันเรียน กล้าคิด กล้าพูด
พ.ศ. 2549 - พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร : อยากฉลาด ต้องขยันอ่าน ขยันคิด
พ.ศ. 2550 - พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ : มีคุณธรรมนำใจ ใช้ชีวิตพอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข

พ.ศ.2551 - พลเอก สุรยุธ์ จุลานนท์ : สามัคคี มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ เชิดชูคุณธรรม
พ.ศ.2552 - นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ :
ฉลาดคิด จิตบริสุทธิ์ จุดประกายฝัน ผูกพันรักสามัค
พ.ศ.2553 - นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ : คิดสร้างสรรค์ ขยันใฝ่รู้ เชิดชูคุณธรรม
พ.ศ.2554 - อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ : รอบคอบ รู้คิด มีจิตสาธารณะ
พ.ศ.2555 - ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร : สามัคคี มีความรู้ คู่ปัญญา คงรักษาความเป็นไทย ใส่ใจเทคโนโลยี
พ.ศ.2556 - ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร : รักษาวินัย ใฝ่เรียนรู้ เพิ่มพูนปัญญา นำพาไทยสู่อาเซียน

วันปีใหม่









วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2555 หากใครยังเลือกสถานที่ "เที่ยวปีใหม่ 2556" เพื่อร่วมส่งท้ายปีเก่า พร้อมกับต้อนรับปีใหม่ 2556 ไม่ได้ซะที วันนี้กระปุกท่องเที่ยวได้รวบรวมเอา "สถานที่เคาท์ดาวน์ 2556" จากทั่วประเทศมาบอกกัน เพราะนอกจากสถานที่เคาท์ดาวน์สุดฮอตฮิตอย่าง...

           ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ณ Bangkok Countdown 2013

          
  สนุกสุดเหวี่ยง! ในงานเทศกาลปีใหม่ พัทยา 2013

          
 งานส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่สู่เชียงใหม่ 2013
          ยังสถานที่จัดงานเคาท์ดาวน์อีกหลากสไตล์ ในหลาย ๆ จังหวัด ใครอยากได้บรรยากาศแบบไหนก็ลองเลือกไปดูกันนะจ๊ะ รับรองว่าแต่ละสถานที่สวยงามไม่แพ้กันแน่นอน โดยเริ่มกันที่...

 งาน Night Paradise Hatyai Countdown 2013

          เทศบาลนครหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ขอเชิญร่วมงาน "Night Paradise Hatyai Countdown 2013" ระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 1 มกราคม พ.ศ. 2556 สถานที่จัดงานบริเวณถนนเสน่หานุสรณ์ และถนนสายหลักใจกลางเมืองเทศบาลนครหาดใหญ่ โดยภายในงานจะมีกิจกรรมการแสดงจากนักร้อง/นักแสดงจากประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย, Street Carnival จากผู้ประกอบการท่องเที่ยวในหาดใหญ่, การแสดงพลุและดอกไม้ไฟ, การจัดกิจกรรมบนเวทีตามถนนสายหลักใจกลางเมือง และการจัดพิธีทำบุญตักบาตร 

          ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานหาดใหญ่ โทรศัพท์ 0 7423 1055, 0 7423 8518 และ 0 7624 3747

 งานมหัศจรรย์แห่งแฟนตาซี ปาร์ตี้เรืองแสง 2013

          จังหวัดขอนแก่น และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานขอนแก่น เชิญร่วม"งานมหัศจรรย์แห่งแฟนตาซี ปาร์ตี้เรืองแสง 2013" ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 1 มกราคม พ.ศ. 2556 สถานที่จัดงานบริเวณถนนศรีจันทร์ จังหวัดขอนแก่น โดยภายในงานจะมีการแสดงดนตรีและกิจกรรมบันเทิงต่าง ๆ, กิจกรรมถนนแห่งการเฉลิมฉลอง, การจัดพิธีทำบุญตักบาตร และไฮไลท์ของงาน คือ การแสดงแสง สี เสียง อันสุดแสนจะมหัศจรรย์และงดงาม

          ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานขอนแก่น โทรศัพท์ 0 4324 4498-9

 งาน Countdown 2013 จังหวัดภูเก็ต

          จังหวัดภูเก็ตและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต ขอเชิญร่วม "งาน Andaman Count Forward 2013" ระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 1 มกราคม พ.ศ. 2556 บริเวณหาดป่าตอง และงาน "Colorful Phuket Countdown 2013" ณ สนามชัย อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต โดยภายในงานแต่ละงานจะมีกิจกรรมการแสดงดนตรีและกิจกรรมบันเทิงต่าง ๆ การแสดงพลุและดอกไม้ไฟ และปิดท้ายด้วยกิจกรรมนับถอยหลังส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

          ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานภูเก็ต โทรศัพท์ 0 7621 1036 และ 0 7621 2213

 งานมหกรรมอาหาร และพิษณุโลกเคาท์ดาวน์

          จังหวัดพิษณุโลก ขอเชิญนักท่องเที่ยวร่วม "งานมหกรรมอาหาร และพิษณุโลกเคาท์ดาวน์" ในระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 1 มกราคม พ.ศ. 2556 ณ ตัวเมืองพิษณุโลก โดยภายในงานจะมีกิจกรรมออกร้านจำหน่ายอาหารคาวหวาน และพิษณุโลกแกรนด์เซล การแสดงวงดนตรีเยาวชน การแสดงศิลปวัฒนธรรมบนเวทีสวนชมน่าน กิจกรรมนับถอยหลังก้าวเข้าสู่ปีใหม่ และพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง เพื่อความเป็นสิริมงคล 

          ทั้งนี้ สอบถามข้อมูลและขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ จ 5525 2742 - 3 และ 0 5525 9907

 เทศกาลท่องเที่ยวปลายฝนต้นหนาว "รับตะวันก่อนใครในสยาม"

          ขอเชิญร่วมงาน เทศกาลท่องเที่ยวปลายฝนต้นหนาว "รับตะวันก่อนใครในสยาม"ระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 1 มกราคม พ.ศ. 2556 ณ ดินแดนด้านตะวันออกสุดสยาม จังหวัดอุบลราชธานี โดยภายในงานจะมีพิธีต่อแสงตะวันที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม (พิธีกรรมตามประเพณีเก่าแก่) พร้อมกับไปรับตะวันใหม่ก่อนใครในสยาม ที่ผาชะนะได และร่วมทำบุญตักบาตรบนผาชะนะได

          ทั้งนี้ สอบถามข้อมูลและขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานอุบลราชธานี โทรศัพท์  0 4524 3770 และ 0 4525 0714

 งานเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ จังหวัดเชียงราย 

          ขอเชิญทุกท่านร่วม "งานวันขึ้นปีใหม่ 2556" หรือ "งานเคาท์ดาวน์ 2013" ในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2555 ณ บริเวณหอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติเชียงราย บนถนนบรรพปราการตลอดสาย โดยจะมีการแสดงกลองสะบัดชัย การแสดงการละเล่นพื้นบ้าน และการแสดงแสง สี เสียง จากกลุ่มศิลปินชั้นนำอีกมากมาย, การแสดงดนตรีและการแสดงทางวัฒนธรรม, การจุดพลุเฉลิมฉลอง และกิจกรรมร่วมนับถอยหลังเพื่อเข้าสู่ปีใหม่

          พร้อมกับร่วม "งานประเพณีอัญเชิญพระพุทธรูปแวดเวียงเจียงฮาย" ระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 1 มกราคม พ.ศ. 2556 ณ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย โดยเป็นขบวนการแห่พระคู่บ้านคู่เมืองที่สำคัญของวัดต่าง ๆ ประดิษฐานบนบุษบกให้ประชาชนสักการบูชา โปรยข้าวตอกดอกไม้ ในบ่ายวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี เพื่อเป็นสิริมงคลสำหรับเมืองเชียงราย ส่งท้ายปีเก่าที่กำลังจะผ่านไปและต้อนรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง จากนั้นร่วมตักบาตรในวันที่ 1 มกราคม ตอนเข้ารับวันปีใหม่ ให้พุทธศาสนิกชนได้มีโอกาสกราบไหว้สักการบูชาด้วยข้าวตอก ดอกไม้ เป็นการเริ่มต้นปีใหม่ที่เป็นสิริมงคลยิ่งนัก

          ทั้งนี้ สอบถามข้อมูลและขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เทศบาลนครเชียงราย โทรศัพท์ 0 5371 1333 ต่อ 304-305,307

 ประเพณีกินวอ มหกรรมปีใหม่ลาหู่

          ขอเชิญทุกท่านร่วมงาน "ประเพณีกินวอ มหกรรมปีใหม่ลาหู่" (ประเพณีปีใหม่ของชาวเขาเผ่าลาหู่) ในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 1 มกราคม พ.ศ. 2556 ณ บ้านห้วยมะซาง ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย โดยภายในงานจะมีการแสดงของชนเผ่าลาหู่, การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และอาหารชนเผ่าการแสดงมินิคอนเสิร์ตของชาวลาหู่ เพื่อเป็นการส่งเสริมอนุรักษ์ เผยแพร่ สืบสานวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชนเผ่าลาหู่ และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมตำบลวาวีการแสดงของชนเผ่าลาหู่

          ทั้งนี้ สอบถามข้อมูลและขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานเชียงราย โทรศัพท์ 0 5371 7433 และ 0 5374 4674-5

 งานสัมผัสอากาศเย็น เด่นในตำนานเหมืองแร่ที่ปิล็อก

          องค์การบริหารส่วนตำบลปิล็อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เชิญเที่ยว "งานสัมผัสอากาศเย็น เด่นในตำนานเหมืองแร่ที่ปิล็อก" ในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2555 ถึงวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2556 ณ บริเวณเหมืองปิล็อก โดยภายในงานจะมีกิจกรรมเที่ยวชมธรรมชาติ ขุนเขา และสายหมอก, การสาธิตการร่อนแร่ ล้างแร่, ชมอุโมงค์เหมืองเก่าท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เขาช้างเผือก, การแสดงของชนพื้นเมืองกะเหรี่ยง พม่า มอญ การแสดงพื้นเมือง, ชิมอาหารพื้นเมือง, ชมการแสดงบนเวที และอื่น ๆ อีกมากมาย พร้อมกับเคาท์ดาวน์บนยอดเขา 

          ทั้งนี้ สอบถามข้อมูลและขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานกาญจนบุรี โทรศัพท์ 0 3451 1200 และ ททท. องค์การบริหารส่วนตำบลปิล็อก โทรศัพท์ 0 3459 9568

 Hua Hin Countdown หัวมันส์ดิ้น หินมันส์โยก

          ขอเชิญเที่ยวงาน "Hua Hin Countdown หัวมันส์ดิ้น หินมันส์โยก" ในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2555 ตั้งแต่ 18.30 น. เป็นต้นไป ณ ณ ศูนย์การค้าหัวหิน มาร์เก็ตวิลเลจ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยภายในงานจะมีกิจกรรมบันเทิงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เช่น การแสดงคอนเสิร์ตของศิลปินชั้นนำของไทย, การประดับไฟสุดตระการตา และร่วมนับถอยหลังพร้อมกัน

          ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ โทรศัพท์ 0 3251 3885 และศูนย์การค้าหัวหิน มาร์เก็ตวิลเลจ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โทรศัพท์ 0 3261 8888

 มหัศจรรย์เมืองขนอมปูเสื่อกินข้าว เคาท์ดาวน์ริมหาด

          ขอเชิญนักท่องเที่ยวร่วมงาน "มหัศจรรย์เมืองขนอมปูเสื่อกินข้าว เคาท์ดาวน์ริมหาด" ในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2555 ณ อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช ไปชมการประกวด Miss Amazing ขนอม Countdown ยกปิ่นโตรับประทานอาหารกลางสวนริมหาด การประกวดดนตรีเยาวชน การแสดงศิลปวัฒนธรรม เคาท์ดาวน์สู่ปีใหม่ และชมพลุเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ และร่วมนับถอยหลังเพื่อเข้าสู่ปีใหม่สากล

          ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทรศัพท์ 0 7534 6515-6

 ม่วนซื่น ปีใหม่ เชื่อมใจลุ่มน้ำโขง Countdown Mukdahan 2013

          ขอเชิญทุกท่านร่วมงาน "ม่วนซื่น ปีใหม่ เชื่อมใจลุ่มน้ำโขง Countdown Mukdahan 2013" ในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 1 มกราคม พ.ศ. 2556 บริเวณลานศาลาพญานาค โดยจะมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมจากสุดยอดหมอลำผญา ศิลปินพื้นบ้านจังหวัดมุกดาหาร, ตลาดนัดม่วนซื่น, ลานเครื่องเล่นมหาสนุก, ลานอาหาร เครื่องดื่มไทย อินโดจีน, ประดับประดาไปด้วยแสง สี เสียง อันตระการตา, พลุไฟส่องสว่างเหนือสะพานข้ามโขง และร่วมนับถอยหลังเข้าสู่ศักราชใหม่ 2556

          ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานนครพนม โทรศัพท์ 0 4251 3490-1

 งาน Countdown อัมพวารื่นเริงเถลิงศกใหม่

          ขอเชิญทุกท่านร่วมงาน "Countdown อัมพวารื่นเริงเถลิงศกใหม่" ณ ริมเขื่อน หน้าที่ว่าการอำเภออัมพวา (ตลาดน้ำยามเย็นอัมพวา) จังหวัดสมุทรสงคราม ในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 1 มกราคม พ.ศ. 2556 ไปร่วมสัมผัสกับบรรยากาศแบบย้อนยุคท่ามกลางบรรยากาศคึกคัก พร้อมชมการแสดงพลุและดอกไม้ไฟฉลองวันขึ้นปีใหม่ และร่วมทำบุญใส่บาตรวันขึ้นปีใหม่ 1 มกราคม 2556 เวลา 07.30 น.

          ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เทศบาลตำบลอัมพวา โทรศัพท์ 0 3475 1351 และ ททท. สำนักงานสมุทรสงคราม โทรศัพท์ 0 3475 2847-8 

 งานเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ จังหวัดพิจิตร

          ขอเชิญร่วม "งานเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ จังหวัดพิจิตร" ในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 1 มกราคม พ.ศ. 2556 โดยจะมีกิจกรรมการแสดงทางวัฒนธรรม, การออกร้านขายสินค้าราคาถูก, กิจกรรม Count down และกิจกรรมตักบาตรพระสงฆ์

วันคริสต์มาส




       ช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลที่สำคัญเทศกาลหนึ่งของชาวคริสต์ เทศกาลสำคัญที่ว่านี้คือ เทศกาลคริสต์มาส ซึ่งเป็นเทศกาลฉลองการประสูติของพระคริสต์เทศกาลคริสต์มาสจะจัดขึ้นในวันที่ 24 และ 25 ธันวาคมของทุกปี ในบางประเทศคริสต์มาสอาจจะเริ่มก่อนหน้านั้นประมาณหนึ่งเดือน ช่วงเวลานี้เรียกว่า "แอดเวนท์" (มาจากภาษาลาติน แปลว่า "กำลังมา") และจะสิ้นสุดลงในวันที่ 6 มกราคมซึ่งเป็นวันที่นักปราชญ์สามคนที่มาจากทิศตะวันออกนำของขวัญมามอบแก่พระกุมารเยชู ด้วยเหตุนี้ในคืนวันที่ 6 มกราคม จึงเป็นคืนแห่งการมอบของขวัญในหลาย ๆ แห่งของโลก 
         และเมื่อวันคริสต์มาสอันเป็นวัดสุดยอดของเทศกาลมาถึง การเฉลิมฉลองก็จะเริ่มขึ้น ในช่วงเทศกาลนี้บ้านเรือนจะถูกตกแต่งให้สดใสอบอุ่นด้วยต้นคริสต์มาสที่ประดับประดาเอาไว้อย่าง สวยงาม ที่ใต้ต้นคริสต์มาสจะมีของขวัญวางเรียงไว้มากมาย ประตูบ้านและขอบเตาผิงจะถูกตกแต่งด้วยหรีดกิ่งสนและฮอลลีในเดนมาร์กมีการประดับกิ่งเบริร์ชด้วยผลแอปเปิ้ลสีแดงผลเล็ก ๆ และคนแคระตังจิ๋วที่เรียกว่า "พิสเชอร์" ในนอรเวและสวีเดนมีการทำสัตว์ตัวเล็ก ๆ จากฟางแล้วผูกด้วยริบบิ้นสีแดง 
         เมื่อพูดถึงอาหารในวันคริสต์มาสจะมีอาหารพิเศษมากมายทั้งไก่งวงที่แสนอร่อย เนื้ออบก้อนโตซอสแครนเบอร์รรี ขนมพาย พุดดิง เค้กและคุกกี้เป็นร้อย ๆชนิด ที่ฝรั่งเศษมีการทำเค้กพิเศษเป็นรูปขอนไม้รสชาติเข้มข้นที่เรียกว่า บุช เดอ โนแอล (ขอยไม้คริสต์มาส)และหลังจากอาหารค่ำที่แสนวิเศษผ่านไปนาทีอันน่าระทึกใจก็มาถึงนั่นก็คือการแกะของขวัญนั่นเอง คริสต์มาสเป็นเทศกาลแห่งความสุขที่มีเรื่องให้พูดถึงไม่รู้เบื่อ สำหรับใครก็ตามที่กำลังจะฉลองเทศกาลนี้ก็ขอให้มีความสุขมาก ๆ
       ทุกวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี จะมีการฉลองรื่นเริงในหมู่คริสต์ศาสนิกชนทั่วโลก กิจกรรมในวันนี้มีแต่สิ่งที่น่ารื่นรมย์ไม่ว่าจะเป็นการกินเลี้ยง แลกของขวัญ แต่งบ้านด้วยต้นคริสต์มาส ร้องเพลงคริสต์มาส ไปจนถึงเอาถุงเท้าไปแขวนรอซันตาคลอสผู้อารีย์นำของขวัญมาใส่ไว้ให้ 
         วันคริสต์มาสมีความสำคัญคือ เป็นวันประสูติของพระเยซู ศาสดาของศาสนาคริสต์ พระเยซูเป็นชาวยิว ประสูติในประเทศปาเลสไตน์ ซึ่งเดิมตกเป็นเมืองขึ้นของประเทศใกล้เคียงมาเป็นเวลาช้านาน มีนักปราชญืชาวยิวหลายท่านพยากรณ์ว่า วันหนึ่งข้างหน้าจะมีพระบุตรของพระเจ้าเสด็จลงมาปลดแอกชาวยิวให้ได้รับอิสระภาพในที่สุดวันนั้นก็มาถึง เมื่อพระเยซูประสูติที่หมู่บ้านเบธเลเฮม แคว้นยูดา มารดาของพระองค์ชื่อมาเรีย (ซึ่งเรารู้จักในนามแม่พระ) บิดาชื่อโยเซฟมีอาชีพเป็นช่างไม้ 
         พระเยซูทรงพระปรีชาสามารถมาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์สามารถโต้ตอบกับพระชาวยิวในด้านศาสนาได้อย่างฉะฉาน ชีวิตในตอนต้นของพระองค์ดำเนินไปอย่างเรียบง่ายทรงมีอาชีพเป็นช่างไม้ช่วยบิดา จนพระชนมายุราว 30 พรรษา จึงเสด็จออกประกาศคำสอนและทรงรักษาคนป่วยประเภทต่าง ๆเช่น คนตาบอด ง่อยเปลี้ย ให้กลับเป็นปกติดังเดิม 
         ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาที่มีผู้นับถือมากที่สุดในโลกเช่นเดียวกับศาสนาอิสลามและศาสนาพุทธ
        เริ่มมีขึ้นในศตวรรษที่ 5 ซึ่งในสมัยนั้น มีทั้งพระสงฆ์และฆราวาสเป็นผู้แต่ง ร้องเป็นภาษาลาติน ลักษณะของเพลงเป็นแบบสง่า เน้นถึงความหมายของการเสด็จมา ของพระเยซูเจ้า แต่ในศตวรรษที่ 12 ได้มีวิวัฒนาการใหม่ในด้านเพลงนี้ เริ่มในประเทศอิตาลี โดยนักบุญฟรังซิส อัสซีซี และนักบวชคณะฟรังซิสกัน เป็นผู้มีส่วนในการสนับสนุน ให้มีเพลงคริสต์มาสแบบใหม่ ซึ่งชาวบ้านชอบ คือมีท่วงทำนองที่ร่าเริงกว่า และเน้นถึงความชื่นชมยินดี ในโอกาสคริสต์มาสนี้ เพลงเหล่านี้เป็นภาษาลาติน และภาษาพื้นเมือง เพลงหนึ่งที่แต่งในสมัยนั้น (แต่งคำร้องในปี ค.ศ.1274) และยังใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน คือ
เพลง Oh Come, All Ye Faithful หรือ Adeste Fideles 
         ในภาษาลาติน เพลงคริสต์มาส ที่เรานิยมร้องมากที่สุดในปัจจุบันได้แต่งขึ้นในศตวรรษที่ 19 จากประเทศเยอรมัน และประเทศอังกฤษเป็นส่วนใหญ่ เพลงที่มีชื่อเสียงมากได้แก่
เพลง Silent Night, Holy Night 
         ความเป็นมาของเพลงนี้คือ วันก่อนวันฉลองคริสต์มาส ของปี ค.ศ.1818 คุณพ่อโจเซฟ โมห์ เจ้าอาวาสวัดที่โอเบิร์นดอฟ ประเทศออสเตรีย ได้ข่าวว่าออร์แกนในวันเสีย ทำให้วงขับร้อง ไม่สามารถร้องเพลงตามที่ซ้อมไว้ได้ คุณพ่อเองตั้งใจ จะแต่งเพลงคริสต์มาสใหม่ หลังจากแต่งเสร็จ ก็เอาไปให้เพื่อนคนหนึ่งชื่อ ฟรานซ์ กรูเบอร์ ที่อยู่หมู่บ้านใกล้เคียงใส่ทำนอง ในคืนวันที่ 24 นั้นเอง สัตบุรุษวัดนี้ ก็ได้ฟังเพลง Silent Night เป็นครั้งแรก โดยการเล่นกีตาร์ประกอบการขับร้อง ซึ่งกลายเป็นเพลงที่นิยมมากที่สุดทั่วโลก
   ซันตาคลอสที่เรารู้จักตคุ้นเคยและเห็นภาพดังที่พรรณนามาตั้งแต่ตอนต้น เพิ่งมีกำเนิดขึ้นมาเมื่อไม่เกิน 200 ปีนี้เอง กลุ่มชนที่สร้างเรื่องราวของวันซาคลอส จนกลายเป็นตำนานสำคัญส่วนหนึ่งของเทศกาลคริสต์มาส คือ ชาวอเมริกันเชื้อสายดัตช์รุ่นบุกเบิกนั่นเอง 
         ตำนานเล่าขานเกี่ยวกับซันตาคลอสเริ่มขึ้นในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 4 มีเด็กชายคนหนึ่งเกิดในหมู่บ้านไมรา ซึ่งสมัยก่อนโน้น ตั้งอยู่ระหว่างเกาะโรดส์กับไซปรัส แต่ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นหมู่บ้านเดมรี มีบ้านเรือนตั้งเรียงรายบนสันทรายใกล้ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน 
         เด็กชายผู้เกิดในหมู่บ้านเล็ก ๆ มีชื่อว่า "นิโคลัส" ชีวิตของเขาอยู่บนกองเงินกองทองเพราะพ่อแม่มีฐานะร่ำรวย ไม่ช้าไม่นานพ่อแม่ก็ถึงแก่กรรม ทรัพย์สินจึงตกเป็นของเขาเพียงผู้เดียว แต่น่าแปลกที่นิโคลัสกลับมีใจโอบอ้อมอารีต่อคนยากคนจน ชอบแจกสมบัติช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากจนกลายเป็นขวัญใจของคนทุกเพศทุกวัย 
         ครั้งนั้นก้อยังมีครอบครัวของชายชราคนจนครอบครัวหนึ่ง กำลังมีปัญหาด้วยบุตรสาวทั้งสามต้องการแต่งงาน แต่ไม่มีเงินจัดพิธีให้สมเกียรติก่อนคนสุดท้อง ครอบครัวนี้จึงตกอยู่ในความทุกข์อย่างหนัก 
         แต่เมื่อนิโคลัสทราบข่าว จึงนำทองคำใส่ถุง 2 ถุง แอบย่องเข่าไปวางไว้ในบ้านของชายยากจนยามดึกสงัด ทำให้ 2 สาวได้จัดพิธีแต่งงานได้อย่างใหญ่โตสมความปรารถนา ต่อมาก็ถึงเวลาของบุตรสาวคนสุดท้องนิโคลัสก็นำถุงทองแอบมาหย่อนลงทางปล่องไฟในยามราตรี เหตุที่ต้องใช้ปล่องไฟเพราะคืนนั้นหน้าต่างปิดสนิท 
         จากพฤติกรรมของนิโคลัสเป็นต้นเหตุให้พ่อแม่เด็ก ๆ ในสมัยต่อมา แอบนำของขวัญวางไว้ที่เตียงนอนของลูก ๆ ในตอนกลางคืน แล้วบอกว่า ซันตาคลอสนำของขวัญมามอบให้กลายเป็นพฤติกรรมเลียนแบบที่ยกย่องซันตาคลอสให้ฝังอยู่ในจิตสำนึกของเด็ก ๆ สืบทอดมาจนถึงปัจจุบันและนี่ก็คือ ตำนานความเป็นมาของ กำเนิดซันตาคลอส บิดาแห่งวันคริสต์มาส "นั่นเอง 
       เมื่อชาวดัตช์บางกลุ่มอพยพมาอยู่ในอเมริกาก็นำเอาความเชื่อถือศรัทธาในนักบุญนิโคลัสติดมาด้วย ยังมีการเฉลิมฉลองวันเซนต์นิโคลัสกันทุก ๆ ปี ในเดือนธันวาคม และในที่สุดก็ได้มีการดัดแปลงผสมผสานเข้ากับความเชื่อถือของชาวอเมริกันเชื้อสายอื่น ๆ ทางแถบตะวันออกของอเมริกาตำนานเซนต์โคลัสก็เลยมาผูกโยงกับการเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาส "ซินเตอร์คลาส" ของชาวดัตช์ซึ่งต่อมาได้กร่อนกลายเป็น "ซันตาคลอส" ก็มีบทบาทและหน้าที่สำคัญ คือ แจกของขวัญแก่เด็ก ๆ ในตอนเช้าตรู่ของทุกวันคริสต์มาสดังที่รู้ ๆ กันอยู่ 
         ทั้งนี้ ภาพซันตาคลอส ภาพแรกที่ปรากฏเป็นชายแก่ใจดี เคราขาวพุงพลุ้ย ใส่เฟอร์โค้ทตัวหนาสีแดงขลิบขาว หอบข้าวของพุรุงพะรังเช่นที่เราคุ้นเคยกันนั้น เป็นฝีมือการวาดจากข้อมูลทางประวัติศาสตร์ผสมผสานกับจินตนาการส่วนตัวของนักเขียนการ์ตูนชื่อดังชาวอเมริกัน ที่ชื่อว่า "โธมัส แนสท์" ภาพแรกของซันตาคลอสนี้ปรากฏเป็นครั้งแรกในนิตยสาร harper's illustrated weekly ปี พ.ศ.1863 
         ต่อมาเรื่องราวของซันตาคลอสก็แพร่กระจายไปสู่คริสต์ศาสนิกชนประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก จนกระทั่งหลาย ๆ ประเทศสามารถสร้างตำนานที่มีรายละเอียดแบบเอ็กซ์ลูซีฟเกี่ยวกับซันตาคลอสเป็นของตนเอง เช่น ซันตาคลอสประเทศฟินแลนด์ที่เป็นที่รู้จักกันดีที่สุด ซันตาคลอสมีบ้านและออฟฟิศอยู่ที่เมืองโรวานีมี เป็นเมืองท่องเที่ยวเป็นที่รู้จักกันดี อยู่ในเขตแลปแลนด์ แคว้นหนึ่งของประเทศฟินแลนด์ 
         แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าซันตาคลอสจะอยู่ที่ไหน จะเป็นของชาติใด แก่นแท้ หรือสปิริตของความเป็นซันตาคอลสก็คือ ความรัก ความเมตตา กรุณา และความสดใสร่าเริง ซึ่งเป็นของสากลสำหรับมนุษย์ทุกชาติทุกภาษาและทั่วทุกหนทุกแห่ง